วันที่ 1 เมษายน 63 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางโรคระบบการหายใจ รพ.วิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ถึงข้อมูลล่าสุดเตือนเรื่องการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ระบุว่า
มีข้อมูลล่าสุดสนับสนุนว่าผู้ป่วยโควิด-19 ระยะฟักตัวสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสทางอากาศ airborne transmission ไม่ต่างจากวัณโรค ขณะร้องเพลงร่วมกับผู้อื่น สื่ออเมริกาลงข่าว กลุ่มนักร้องประสานเสียงในโบสถ์แห่งหนึ่งที่รัฐวอชิงตัน(ดูรูป) จำนวน 45 คนจาก 60 คน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเสียชีวิต 2 คนภายใน 3 สัปดาห์
ทั้งที่ทุกคนที่มาร้องเพลงเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง วันที่ 10 มีนาคม ไม่มีใครไอ ไม่มีใครป่วย พวกเขาป้องกันตัวเองทุกอย่าง ล้างมือ ยืนรักษาระยะห่าง 1-2 เมตร ไม่แตะตัวหรือแตะต้องสิ่งของอะไร
แต่ปรากฏว่าเมื่อสมาชิกนักร้องกลุ่มนี้แยกย้ายกันกลับบ้าน บางคนเริ่มไม่สบายจนตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ถึง 45 คนและป่วยเสียชีวิตไป 2 คน
แสดงว่าขณะที่คนที่อยู่ในระยะฟักตัว ร้องเพลงเปล่งเสียงสูงออกมามีละอองฝอย (droplet nuclei) ฟุ้งกระจายออกมา เป็นละอองฝอยขนาดเล็ก ไม่ใช่น้ำลายหรือเสมหะ ละอองเล็กขนาดต่ำกว่า 5 ไมครอน ล่องลอยไปในอากาศ ทำให้คนที่อยู่ห่างออกไปไกลๆก็ติดเชื้อได้ ไม่ใช่จากการไอจามรดกัน การสัมผัสเนื้อตัวหรือสิ่งของร่วมกัน
จำกรณีของป้าประเทศเกาหลีใต้ที่ไปร้องเพลงในโบสถ์เมืองแทกูได้ไหม รายนั้นก็เป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ แพร่เชื้อให้กับสมาชิกของโบสถ์ที่ร่วมร้องเพลง 40-50 คนผ่านการเปล่งเสียงร้องเพลงเช่นกัน
หรือกรณีสนามมวยลุมพินีของไทย ก็มีการวัดไข้ และล้างมือทุกคนก่อนเข้าชมมวย เซียนมวยคงอยู่ในระยะฟักตัวคนหนึ่ง ตะโกนส่งเสียงเชียร์แล้วมีละอองฝอยออกมาล่องลอยไปติดคนอื่น 50-60 คน แสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจของเชื้อไวรัสตัวนี้ เชื้อโควิดติดต่อกันง่าย และอันตรายกว่าไข้หวัดใหญ่หลายเท่า
ปัจจุบันมีหลักฐานจากการทดลองในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถล่องลอย มีชีวิต อยู่ในอากาศนานถึง 3 ชั่วโมงต่อไปนี้
ถ้าต้องร้องเพลง ตะโกนเชียร์กีฬา และมีคนอยู่ด้วยกันหลายคน คนที่ร้องหรือตะโกน ต้องใส่หน้ากากอนามัย เพราะอาจอยู่ในระยะฟักตัวโดยที่ตัวเองไม่รู้ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อทางอากาศให้กับผู้อื่นเป็นวงกว้าง
โพสต์
อ้างอิงจาก: https://www.thaismiletopic.com/
Another News:
0 Blogger 0 Facebook